หากคุณเป็นคอหนัง Sci-Fi ที่ชื่นชอบความมันส์ระห่ำ สั่นสะเทือนไปถึงกระดูกสันหลัง และเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดโหด ลองเปิดใจรับชม “The Predator” (2018) ผลงานรีบูตจากจักรวาล Predator ภาพยนตร์ไซไฟคลาสสิกที่ครองใจแฟน ๆ มานานกว่า 30 ปี
ในภาคนี้ ผู้กำกับ Shane Black ได้หยิบเอาสูตรสำเร็จของ “Predator” ภาคแรกมาปรับปรุงใหม่ โดยผสมผสานองค์ประกอบของความตลก และยกระดับความโหดร้ายของเอเลี่ยนให้สูงขึ้นไปอีกขั้น
เนื้อเรื่องของ “The Predator” พาเราไปพบกับ Quinn McKenna (Boyd Holbrook) ทหารผ่านศึกที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจลับ แต่จู่ๆ ก็ถูกโจมตีโดยเอเลี่ยน “Predator” ที่มีความฉลาดและเก่งกาจกว่าเดิมหลายเท่า
McKenna และกลุ่มทหารหน่วยรบพิเศษต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูต่างดาว เพื่อเอาชีวิตรอด และป้องกันโลกใบนี้จากภัยคุกคามที่ไร้ขีดจำกัด
**ตัวละครที่น่าสนใจ: **
ชื่อตัวละคร | อธิบาย |
---|---|
Quinn McKenna | ทหารผ่านศึกที่มีความกล้าหาญและเชี่ยวชาญในการรบ |
Rory McKenna | ลูกชายของ Quinn ผู้มีพรสวรรค์พิเศษที่ช่วยให้กลุ่มทหารเอาชนะ Predator |
Nebraska Williams | นักวิทยาศาสตร์หนุ่มผู้มีความรู้รอบด้าน และเป็นกุญแจสำคัญในการไขความลับของ Predator |
สิ่งที่ทำให้ “The Predator” โดดเด่น:
-
ฉากแอ็คชั่นสุดมันส์: “The Predator” เสิร์ฟฉากต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับเอเลี่ยนอย่างไม่ยั้งมือ ไม่ว่าจะเป็นการปะทะกันด้วยอาวุธหนัก การไล่ล่าในป่าลึก หรือการโจมตีแบบกะทันหัน
-
ความตลกที่แฝงอยู่ในความรุนแรง: ผู้กำกับ Shane Black ได้สอดแทรก yếu tốของความขบขันลงไปในหนังอย่างลงตัว ทำให้ “The Predator” กลายเป็นภาพยนตร์ Sci-Fi ที่ทั้งมันส์และฮา
-
เอฟเฟ็กต์พิเศษระดับโลก: ภาพยนตร์ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี CGI ที่ทันสมัย ทำให้ภาพของ Predator ดูสมจริงยิ่งขึ้น
-
การสำรวจความหมายของ “มนุษย์”: “The Predator” ไม่ใช่แค่หนังไซไฟธรรมดา แต่ยังชวนเราคิดถึงคำถามเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์
บทสรุป:
“The Predator” เป็นภาพยนตร์ Sci-Fi ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความมันส์ระทึกขวัญ และความบันเทิงเต็มรูปแบบ
แม้ว่าหนังจะได้รับกระแสวิจารณ์ที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า “The Predator” เป็นผลงานรีบูตที่น่าสนใจและสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างแน่นอน