หากคุณเป็นนักสะสมภาพยนตร์เงียบ หรือชื่นชอบในประวัติศาสตร์ศิลปะแห่งการสร้างภาพยนตร์ “The Great Train Robbery” (1903) ถือเป็นผลงานที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ผลงานชิ้นนี้กำกับโดย Edwin S. Porter ถือเป็นภาพยนตร์ที่จุดประกายความนิยมของภาพยนตร์แนว westerns และ action
ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงแก๊งโจรที่นำโดยหัวหน้า “Black Bart” (รับบทโดย Fred J. Balshofer) ซึ่งวางแผนปล้นขบวนรถไฟ โดยมีการถ่ายทำฉากต่อสู้ การไล่ล่า และการยิงปืนแบบไดนามิก ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ในสมัยนั้น
ความสำเร็จของ “The Great Train Robbery” มาจากหลายปัจจัย :
1. เทคนิคการตัดต่อและการถ่ายทำภาพยนตร์: Edwin S. Porter นำเสนอเทคนิคการตัดต่อที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ โดยเขาใช้เทคนิค “Cross-Cutting” ซึ่งคือการสลับฉากระหว่างแก๊งโจรและมือปราบ ทำให้ภาพยนตร์มีจังหวะที่รวดเร็วและน่าตื่นเต้น
2. การแสดงที่สมจริง: นักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการฝึกอบรมอย่างดี ทำให้การแสดงของพวกเขาสมจริงและน่าเชื่อถือ
นักแสดง | บทบาท |
---|---|
Fred J. Balshofer | Black Bart (หัวหน้าแก๊งโจร) |
George Barnes | มือปราบผู้เก่งกาจ |
Charles Ogle | ผู้โดยสารบนรถไฟ |
3. การใช้ดนตรีประกอบ: D.W. Griffith ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์คนสำคัญในยุคเงียบ ได้ให้ความเห็นว่า “The Great Train Robbery” เป็นภาพยนตร์ที่ “มีการใช้ดนตรีประกอบอย่างชาญฉลาด”
4. บทภาพยนตร์ที่เร้าใจ: เรื่องราวของแก๊งโจรที่ปล้นขบวนรถไฟและการไล่ล่าของมือปราบเป็นพล็อตที่เร้าใจและเต็มไปด้วยแอคชั่น ซึ่งทำให้ผู้ชมติดตามได้อย่างไม่รู้เบื่อ
“The Great Train Robbery” ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์เงียบที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ มันเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเทคนิคการสร้างภาพยนตร์ใหม่ๆ และทำให้เกิดแรงบันดาลใจแก่ผู้กำกับและนักแสดงรุ่นต่อมา
หากคุณมีโอกาสได้ชม “The Great Train Robbery” คุณจะได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ และความบันเทิงแบบสุดคลาสสิค
ข้อแนะนำสำหรับการรับชม:
- สำหรับผู้ที่ไม่เคยดูภาพยนตร์เงียบมาก่อน อาจรู้สึกว่า “The Great Train Robbery” เป็นภาพยนตร์ที่ช้าและไม่มีเสียง
- อย่างไรก็ตาม คุณควรพยายามเข้าใจบริบทของภาพยนตร์ในสมัยนั้น
- ลองนึกถึงว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นมาในปี 1903
“The Great Train Robbery” เป็นภาพยนตร์ที่ทุกคนควรได้ดูสักครั้ง!