หากพูดถึงภาพยนตร์คลาสสิคในยุคทองของภาพยนตร์สยองขวัญ (Golden Age of Horror) คงไม่มีใครปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของ “Bride of Frankenstein” (1935) ผลงานของผู้กำกับ James Whale ที่สร้างขึ้นหลังจากความสำเร็จของ “Frankenstein” (1931)
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ “Frankenstein” โดยมีตัวละครหลักเดิมๆ กลับมาร่วมแสดงอีกครั้ง เช่น Dr. Henry Frankenstein (Colin Clive), Igor (Ernest Thesiger) และ The Monster (Boris Karloff)
สำหรับคนที่ไม่เคยดู “Bride of Frankenstein” ผมขออธิบายเนื้อเรื่องโดยย่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรก โดย Dr. Frankenstein ได้รับการปลุกขึ้นมาอีกครั้งและถูกบังคับให้สร้าง “คู่ครอง” ให้กับ The Monster ซึ่งได้แสดงความเหงาและต้องการ companionship
Dr. Pretorius (Ernest Thesiger) นักวิทยาศาสตร์ผู้ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์ เป็นผู้ที่ยั่วยุ Dr. Frankenstein ให้ทำการทดลองนี้ ด้วยความหวาดกลัว และความไม่เต็มใจ แต่สุดท้าย Dr. Frankenstein ก็ยอมรับคำขอของ Dr. Pretorius
การสร้าง Bride of Frankenstein นั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อนและอุกอาจ Dr. Frankenstein ใช้ส่วนผสมที่แปลกประหลาด เช่น เส้นผม, อวัยวะ และเนื้อเยื่อจากผู้หญิงที่เสียชีวิต
เมื่อ The Monster ได้พบกับ Bride of Frankenstein ความหวังของเขาก็ปรากฏขึ้น แต่ Bride of Frankenstein กลับแสดงความกลัวและปฏิเสธ The Monster ทันที นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างสองตัวละคร
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขา Best Sound Recording และถือว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์และมีนัยยะทางสังคมลึกซึ้งที่สุดของยุค 1930s
ทำไม “Bride of Frankenstein” ถึงเป็นภาพยนตร์คลาสสิค?
-
การแสดงที่ยอดเยี่ยม: Boris Karloff เป็น The Monster ที่สร้างความสะเทือนใจและความสงสารแก่ผู้ชมได้อย่างดีเลิศ
-
ดนตรีประกอบที่ตราตรึงใจ: บทเพลงของ Franz Waxman ช่วยเสริมสร้างความน่ากลัวและความตื่นเต้น
-
ภาพยนตร์ที่สวยงาม: ฉากใน “Bride of Frankenstein” ถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาด โดยใช้แสงเงา และการจัดองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ
-
เนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง: ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นสยองขวัญเท่านั้น แต่ยังวิเคราะห์ถึงความหมายของชีวิต ความรัก การถูกทอดทิ้ง และความต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ฉากสำคัญใน “Bride of Frankenstein”:
ฉาก | คำอธิบาย |
---|---|
การสร้าง Bride of Frankenstein | ฉากนี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความน่าสะพรึงกลัวของการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ผิดศีลธรรม |
การพบกันครั้งแรกระหว่าง The Monster และ Bride of Frankenstein | ฉากนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความหวัง แต่ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยความผิดหวัง |
The Monster ถูกโจมตีโดยชาวบ้าน | ฉากนี้แสดงให้เห็นถึงความเห以上的ที่ The Monster ต้องเผชิญ และการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด |
สรุป
“Bride of Frankenstein” เป็นภาพยนตร์คลาสสิคที่ควรค่าแก่การรับชม ไม่เพียงแต่เพราะความน่ากลัวเท่านั้น แต่ยังเนื่องจากเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง การแสดงที่ยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบที่ตราตรึงใจ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สามารถยืนหยัดท่ามกลางกาลเวลา